ไส้ติ่ง คืออะไร? ไส้ติ่ง คือส่วนขยายของลำไส้ส่วนต้น อยู่บริเวณท้องน้อยด้านขาว มีรูปร่างเรียวยาวคล้ายหนอน มีความยาวตั้งแต่ 2 – 20 เซ็นติเมตร ที่ปลายไส้ติ่งจะปิด ส่วนอีกด้านจะเชื่อมต่อกับลำไส้ใหญ่ หน้าที่ของไส้ติ่งยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าอาจจะมีหน้าที่ในการสะสมเชื้อแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ไส้ติ่งอักเสบ ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis) คือ เป็นโรคปวดท้องอักเสบเฉียบพลันที่พบบ่อยในทุกเพศ ทุกวัย โดยส่วนใหญ่จะพบในเด็กและวัยทำงาน เป็นโรคที่ควรระวังเป็นพิเศษ เพราะมีอาการหลายแบบ ทำให้บางครั้งอาจเกิดการวินิจฉัยผิด คิดว่าเป็นลำไส้อักเสบได้ เพราะมีอาการปวดท้องคล้ายคลึงกับอาการปวดท้องทั่วไป ทำให้หลายคนไม่แน่ใจว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบหรือไม่ 5 สัญญาณบ่งบอก ไส้ติ่งอักเสบ มีอาการปวดเฉียบพลันที่บริเวณสะดือ ต่อมาย้ายไปปวดที่ท้องน้อยด้านล่างขวา เนื่องจากการอักเสบที่ลุกลามมากขึ้น จะมีอาการปวดมากขึ้นขณะที่ไอ เดิน หรือแม้แต่ขยับตัว มีอาการกดเจ็บ ที่สำคัญอาการปวดจะไม่ดีขึ้น คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร อาจมีไข้ ท้องเสีย ท้องผูก หรือท้องอืดร่วมด้วย มีอาการปัสสาวะบ่อยขึ้น เนื่องจากการอักเสบที่มากขึ้นของไส้ติ่ง ไปกระตุ้นท่อไตของระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งอยู่ใกล้กัน ถ้ามีอาการเหล่านี้ และสงสัยว่าอาจเป็นไส้ติ่งอักเสบ ให้รีบไปพบแพทย์ เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้เกิน 2-3 […]
อาหารผู้สูงอายุ มีอะไรบ้าง?
อาหารผู้สูงอายุ อาหารผู้สูงอายุ เป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องใส่ใจ เพราะเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่ออายุ 60 ปีขึ้นไป ระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับประทานอาหารก็จะเสื่อมลง ไม่ว่าจะเป็นการเคี้ยว การกลืน หรือระบบการย่อยอาหาร ดังนั้น การปรับเปลี่ยนอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้ผู้สูงอายุได้รับอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วนมากที่สุด อาหารสำหรับผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุต้องการพลังงานและสารอาหารที่ดีครบทั้ง 5 หมู่ อย่างเพียงพอและเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย ดังนี้ โปรตีน (เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว) ผู้สูงอายุมีความต้องการโปรตีนมากขึ้น เนื่องจากผู้สูงอายุมีกล้ามเนื้อที่น้อยลง และกระบวนการสร้างกล้ามเนื้อจะต้องใช้ปริมาณโปรตีนที่มากขึ้นเพื่อการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ดังนี้ ผู้สูงอายุต้องการโปรตีนปริมาณ 1.2 กรัมต่อวัน ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หรือ ถ้าเป็นเนื้อสัตว์ ประมาณ 4 ช้อนโต๊ะต่อมื้อ ไข่ ถือเป็นโปรตีนที่ดี ผู้สูงอายุที่ไม่มีโรคเรื้อรังสามารถทานไข่ได้ทุกวัน วันละ 1 ฟอง แต่ถ้ามีโรคเบาหวาน ความดันโลหิต โรคหัวใจ หรือภาวะไขมันในเลือดสูง แนะนำให้รับประทานไข่ 3 ฟองต่อสัปดาห์ และควรเป็นไข่ต้มจะดีที่สุด นม […]
Gastric Balloon บอลลูนลดความอ้วน
Gastric Balloon ลดความอ้วน Gastric Balloon (แกสตริกบอลลูน) หรือบอลลูนลดน้ำหนัก คือการใส่บอลลูนลงไปในกระเพาะอาหาร เป็นวิธีการลดน้ำหนักชนิดหนึ่งที่ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องใช้ยา มีขั้นตอนการทำที่ง่าย ทำให้ผู้ป่วยสามารถลดน้ำหนักได้อย่างชัดเจน ภายในบอลลูน จะใส่น้ำเกลือผสมกับสารสีฟ้าที่เรียกว่า เมทิลีนบลู (Methylene Blue) ในปริมาณ 400 ถึง 500 ซีซี เพื่อเป็นการลดพื้นที่ในกระเพาะอาหาร ทำให้ผู้เข้ารับการใส่บอลลูนรู้สึกอิ่มเร็ว และรับประทานอาหารได้ลดลง ซึ่งวิธีนี้จะทำควบคู่กันกับการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร นอกจากน้ำหนักที่ลดลงแล้ว ยังทำให้สุขภาพดีขึ้นด้วย ขั้นตอนการทำ ทำการตรวจร่างกาย วัดความดันโลหิต ชีพจร และระดับออกซิเจนในเลือด แพทย์จะพ่นยาชาที่บริเวณลำคอ หรือกลั้วปากด้วยยาชา หรือให้ยานอนหลับสำหรับผู้ป่วยที่มีความกังวล ใส่อุปกรณ์ช่วยในการอ้าปาก เพื่อช่วยอ้าปากระหว่างทำการใส่บอลลูน แพทย์จะใช้กล้องส่องเข้าไปที่หลอดอาหารทางปาก แล้วใส่แคปซูนบอลลูนลงไปยังกระเพาะอาหาร จากนั้นจะทำการใส่น้ำเกลือ ผสมกับสารสีฟ้าที่เรียกว่า เมทิลีน บลู (Methylene Blue) ในปริมาตร 400 ถึง 500 ซีซี หลังจากเติมน้ำเกลือและสารสีฟ้าในปริมาตรที่เหมาะสมแล้ว แพทย์จะค่อยๆ ดึงอุปกรณ์ออก การใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร จะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ซึ่งบอลลูนสามารถเพิ่มหรือลดขนาดได้ภายหลัง นอนพักฟื้นดูอาการที่โรงพยาบาลเป็นเวลา […]
ยาฝังคุมกำเนิด หรือ การฝังเข็ม คุมกำเนิด
ยาฝังคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด หรือ การฝังเข็ม คุมกำเนิด เป็นวิธีคุมกำเนิดแบบชั่วคราวกึ่งถาวร โดยการฝังแท่งเข็มพลาสติกเล็กๆ ที่มีฮอร์โมนอยู่ภายในเข้าไปใต้แขน ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพและดีที่สุด ภายในแท่งพลาสติกนั้น จะมีการบรรจุยาฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะต่างกับยาเม็ดคุมกำเนิดแบบทานที่มีฮอร์โมน 2 ชนิด คือ เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน คุมกำเนิดได้กี่ปี ? สามารถคุมกำเนิดได้นาน 3 ปี โดยการฝังยา 1 แท่ง เรียกว่า อิมพลานอน (Implanon) ซึ่งเป็นฮอร์โมน Etonogestrel 68 มิลลิกรัม โดยจะปล่อยฮอร์โมนออกมาวันละ 70-60 ไมโครกรัม และสามารถคุมกำเนิดได้นาน 5 ปี ถ้าทำการฝังยา 2 แท่ง เรียกว่า จาเดลล์ (Jadelle) ซึ่งเป็นฮอร์โมน Levonorgestrel 75 มิลลิกรัม โดยจะปล่อยฮอร์โมนออกมาวันละ 100-40 ไมโครกรัม กลไกการออกฤทธิ์ของยาฝังคุมกำเนิด ตัวยาจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดในปริมาณที่น้อย เพื่อไปยับยังการเจริญเติบโตของไข่ ส่งผลทำให้ไข่ไม่ตก จึงไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ฮอร์โมนโปรเจสตินที่ปล่อยออกมา จะทำให้มูกที่ปากมดลูกเหนียวข้น ทำให้อสุจิวิ่งผ่านเข้าไปยาก […]