โรคซิฟิลิส
โรคซิฟิลิส (Syphilis) คือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Treponema palidum ซึ่งมีระยะฟักตัวประมาณ 10-90 วัน
ในขณะมีเพศสัมพันธ์ อาจมีการฉีกขาดของเยื่อบุบริเวณอวัยวะเพศ ทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในอีกคนแพร่เข้ามาในร่างกายได้ เชื้อแบคทีเรียตัวนี้ยังสามารถเข้าไปทางแผลบริเวณอื่น เช่น แผลในปาก ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับว่ามีเพศสัมพันธ์ที่ตรงใหน
อาการของโรคซิฟิลิสแบ่งได้ 3 ระยะ
ระยะแรก จะมีแผลบริเวณอวัยวะเพศหรือบริเวณทวารหนัก แผลจะมีลักษณะหนาๆ ไม่เจ็บ จะเกิดขึ้นหลังจากได้รับเชื้อมาประมาณ 10 วัน ถึง 3 เดือน ซึ่งแผลจะสามารถหายไปได้เอง แต่เชื้อจะยังอยู่
ระยะที่2 มักเกิดต่อจากระยะแรกประมาณ 3-6 สัปาดาห์ อาการของระยะนี้จะมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต จะมีผื่นขึ้นตามตัว หรือบริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า ปวดตามข้อ อาจมีหูดคล้ายหูดหงอนไก่ขึ้นที่อวัยวะเพศ บางคนอาจมีผมร่วงเป็นหย่อมๆ คิ้วร่วง หรือมีก้อนบริเวณอวัยวะเพศหรือทวารหนักได้ ซึ่งอาการดังกล่าวสามารถหายไปได้เองเช่นเดียวกัน แต่เชื้อจะยังแฝงอยู่ในร่างกาย อาจอยู่ได้นาน 5-20 ปี ถ้าไม่ได้รับการรักษาเชื้อก็จะลามเข้าไปสู่ระยะที่3
ระยะที่3 เชื้อจะเข้าสู่กระแสเลือดและอวัยวะต่างๆ เช่น สมอง หัวใจ ไขสันหลัง ทำให้เกิดความจำเสื่อม หรือหูหนวก ตาบอด และอาจเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ อาจทำให้เกิดภาวะพิการและเสียชีวิตได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเชื้อเข้าไปที่ส่วนใดของของร่างกาย
การตรวจหาโรคซิฟิลิส
ในระยะที่2 หรือระยะแฝง สามารถตรวจได้ทางเลือด แต่ถ้าเป็นในระยะแรก สามารถขูดบริเวณแผลเพื่อนำไปตรวจได้ เพราะการตรวจด้วยเลือดในระยะแรกอาจไม่เจอ
การรักษาโรคซิฟิลิส
โรคซิฟิลิสสามารถรักษาได้ด้วยการฉีดยายาเพนิซิลิน แต่สำหรับคนแพ้เพนิซิลินจะมียาอื่นมาทดแทน แต่จะไม่ดีเท่าตัวยาเพนิซิลิน
การรักษาจะขึ้นอยู่กับระยะที่เป็น ถ้าเป็นซิฟิลิสระยะแรกและระยะที่สอง หรือระยะแฝงที่ติดเชื้อมาไม่เกิน 2 ปี ก็จะใช้วิธีฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ 1 ครั้ง
แต่ถ้าเป็นซิฟิลิสที่ติดเชื้อมาเกิน 2 ปีแล้ว จะต้องฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อติดต่อกัน 3 สัปดาห์ ถ้าเชื้อลามเข้าสู่ระยะที่สามจะต้องรักษาโดยการฉีดยาเข้าสู่เส้นเลือดดำติดต่อกันนาน 14 วัน
นอกจากนี้ต้องติดตามคู่นอนที่มีเพศสัมพันธ์มารับการตรวจรักษาด้วย แค่นี้ก็สามารถรักษาโรคซิฟิลิสได้แล้ว
โรคซิฟิลิสป้องกันได้ง่ายๆ
- ใส่ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้อง ทุกครั้ง ทุกช่องทาง และกับทุกคนที่มีเพศสัมพันธ์
- ถ้ารู้ตัวเองว่ามีพฤติกรรมเสี่ยง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาโรคเป็นระยะๆ
- ก่อนแต่งงานควรตรวจหาโรคนี้ก่อน เพื่อป้องกันการติดต่อถึงลูก
รู้หรือไม่?
- ในหญิงตั้งครรภ์ที่มีเชื้อซิฟิลิสอยู่ สามารถถ่ายทอดเชื้อสู่ทารกในครรภ์ได้ ทำให้เด็กที่คลอดออกมาเป็นซิฟิลิสแต่กำเนิด ซึ่งจะทำให้มีอาการดั้งจมูกยุบ ปากแหวง เพดานโหว่ หรืออาจตาบอดได้
- การตรวจร่างกายประจำปีส่วนใหญ่จะไม่รวมการตรวจซิฟิลิสด้วย ถ้าต้องการตรวจต้องแจ้งแพทย์เพิ่มเติม