ยาที่หญิงตั้งครรภ์ห้ามใช้
ยาที่หญิงตั้งครรภ์ห้ามใช้ ทารกในครรภ์จะได้รับทุกอย่างที่คุณแม่ทานเข้าไป โดยเฉพาะในช่วง 1-2 เดือนแรก บางครั้งคุณแม่ไม่รู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์ จึงมีโอกาสได้รับยาโดยไม่ได้ตั้งใจ ยาหลายชนิดอาจทำให้ทารกในครรภ์พิการหรือทำให้เกิดการแท้งบุตรได้
ยาที่หญิงตั้งครรภ์ห้ามใช้เด็ดขาด
- วิตามินเอ อาจทำให้ลูกพิการได้
- ยารักษาสิว มีอนุพันธ์ของวิตามินเอสามารถสะสมในร่างกาย หากมีแผนที่จะตั้งครรภ์ต้องหยุดทานวิตามินเอ หรืออนุพันธ์ของวิตามินเออย่างน้อย 1 ปี
- ยากันชัก ทำให้การสร้างระบบประสาทของทารกผิดปกติ โดยเฉพาะยากันชัก “วาลโพรเอต” (Valproate) อาจทำให้ไขสันหลังไม่ปิด มีลักษณะเป็นรูเกิดขึ้น ทารกมักจะเสียชีวิตเมื่อคลอด
- ยาปฏิชีวนะเตตราไซคลีน (Tetracycline) หรือที่ชอบเรียกกันว่า “แดงดำ” เป็นยาที่ทำให้การสร้างกระดูกในเดือนที่ 3 ของทารกในครรภ์เกิดความผิดปกติได้ เด็กกลุ่มนี้อาจจะออกมาแล้วฟันเหลืองมากทั้งฟันน้ำนมและฟันแท้ แต่ไม่ทำให้เด็กพิการ
- ยานอนหลับ ยาคลายเครียด เช่น อัลปราโซแลม, ไดอาซีแพม อาจทำให้ทารกปากแหว่งเพดานโหว่ ควรหยุดใช้ยาก่อนการตั้งครรภ์อย่างน้อย 3-6 เดือน
- ยารักษาผมร่วง ฟิแนสเทอไรด์ (Finasteride) อาจทำให้อวัยวะเพศของทารกในครรภ์ผิดปกติได้
- คนไข้ที่เป็นโรคลมชักสามารถท้องได้ แต่ต้องควบคุมไม่ให้เกิดอาการชักขึ้นในระหว่างที่รับประทานยา หากไม่มีอาการชักหรือหยุดชักนานติดต่อกันอย่างน้อย 2 ปี อาจจะตั้งครรภ์ได้ แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อน
คนท้องใช้ยาอะไรได้บ้าง?
- พาราเซตามอล เมื่อปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ หรือเป็นไข้
- คลอเฟนิรามีน(Chlopheniramine) หรือยาแก้แพ้ที่เป็นเม็ดเล็กๆ สีเหลือง ใช้เมื่อเกิดอาการแพ้ คน หรือแก้หวัด
- ยาช่วยย่อยอาหาร ยาเคลือบกระเพาะอาหาร ยาแก้อาการท้องผูก
ยาที่คนท้องใช้ได้แต่ต้องระวัง
ยาลดการอักเสบ เช่น ไอบูโปรเฟน เอ็นเสด หรือยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์กัดกระเพราะ ถ้าไม่จำเป็นให้ใช้ยาพาราเซตามอลแทน หรือใช้เป็นยาทาภายนอกแทนจะปลอดภัยกว่ายากิน
กลุ่มยาแก้อักเสบในแบบรับประทาน ในช่วงไตมาสแรกไม่ค่อยมีผลข้างเคียง แต่ต้องระวังเมื่อใช้ในเดือนที่ 7-9 ของการตั้งครรภ์ อาจทำให้มดลูกไม่บีบตัว ทำให้การคลอดบุตรยากขึ้น
การใช้ยาในขณะให้นมบุตร
- ยาอะไรที่ผลิตขึ้นสำหรับเด็ก คุณแม่สามารทานได้
- เลี่ยงยาที่ออกฤทธิ์ในระบบประสาทส่วนกลาง เช่น ยานอนหลับ ยาต้านเศร้า
- ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
ยาหลายชนิดสามารถที่จะแพร่กระจายที่น้ำนมได้ แนะนำให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนม ก่อนกินยาควรให้นมลูกก่อนหรือบีบน้ำนมไว้แล้วค่อยกินยา และยาที่กินควรเป็นยาที่ออกฤทธิ์สั้นประมาณ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาพอดีที่จะให้นมบุตรอีกครั้ง
ยาทาภายนอกมีผลต่อทารกในครรภ์หรือไม่?
โดยทั่วไปแล้วยาทาภายนอกจะแสดงฤทธิ์เฉพาะบริเวณที่เราทา การดูดซึมเข้ากระแสเลือดค่อนข้างต่ำ แต่ก็ไม่ควรประหมาด ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง
ถ้าคุณแม่รู้ตัวว่ากินยาอะไรในช่วงก่อนการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะยาคุมกำเนิด ยานอนหลับ หรือยาอะไรก็แล้วแต่ที่คุณแม่รับประทานอยู่ แล้วเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมา สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกคือ รีบไปฝากครรภ์ และแจ้งแพทย์หรือสูติแพทย์ที่ดูแล ว่าได้กินยาตัวใหนในช่วงก่อนตั้งครรภ์อยู่ เพื่อแพทย์จะได้ติดตามและประเมิณผลต่อไป