ไวรัส RSV โรคทางเดินหายใจในเด็ก
โรคทางเดินหายใจในเด็ก ไวรัส RSV (Respiratory syncytial virus) เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่พบมากที่สุดโรคหนึ่ง เป็นเชื้อโรคที่ระบาดเกือบทั้งปี และระบาดหนักในช่วงปลายฝนต้นหนาว โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคม – พฤศจิกายน
RSV เป็นไวรัสโรคหวัดชนิดหนึ่ง มีอาการคล้ายเป็นหวัด เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด หลอดลมอักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบ และปอดอักเสบ
ซึ่งโรคนี้สามารถพบได้ในทุกคน แต่อาการจะรุนแรงมากในเด็กเล็ก เด็กที่คลอดก่อนกำหนด และผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคปอด โรคหัวใจ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันร่างกายผิดปกติ
RSV ติดต่อได้อย่างไร?
ไวรัส RSV สามารถติดต่อจากสารคัดหลั่ง น้ำมูก น้ำลาย ผ่านการไอ จาม การสัมผัสโดยตรงและของใช้ต่างๆ ซึ่งโรคนี้จะมีระยะการฟักตัวประมาณ 3-6 วันหลังการได้รับเชื้อ
ปัจจัยที่ทำให้อาการรุนแรงขึ้น
- เป็นโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิด
- ทารกที่คลอดก่อนกำหนด และมีน้ำหนักตัวน้อย
- เป็นโรคปอดเรื้อรัง
การตรวจหาเชื้อไวรัส RSV
การตรวจหาเชื้อไวรัส RSV ทำได้โดยการตรวจคัดกรองเบื้องต้น โดยการป้ายสารคัดหลั่งในจมูก เช่นเดียวกับการตรวจไข้หวัดใหญ่
อาการ
- อาการเริ่มแรกจะคล้ายไข้หวัดทั่วไป
- รับประทานอาหารได้น้อย ซึม มีไข้
- มีน้ำมูกใส ไอมีเสมหะ ไอมากจนอาเจียน
- ไอแล้วมีอาการหอบเหนื่อย หายใจเร็ว หายใจแรง หายใจลำบากหรือมีเสียงหวีดในปอด ซึ่งเป็นลักษณะของอาการหลอดลมตีบ หรือหลอดลมฝอยอักเสบ
- ตัวเขียว
- ในเด็กเล็กๆ โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน มักจะมีอาการหลอดลมส่วนปลายอักเสบ ถ้าเด็กอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีกลุ่มควันหรือควันบุหรี่ จะทำให้เด็กมีอาการรุนมากขึ้น
- หากเด็กมีอาการข้างต้น ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
การรักษา
โรคทางเดินหายใจในเด็ก ที่เกิดจากการเชื้อไวรัส RSV นั้น ไม่มีวัคซีนป้องกัน และยังไม่มียารักษาเฉพาะ จะรักษาตามอาการ รักษาแบบประคับประคอง เช่น
- ให้ยาลดไข้
- จิบน้ำบ่อยๆ นอนพักผ่อนมากๆ
- ในเด็กบางรายที่มีลักษณะหลอดลมตีบ จะให้ยาพ่นขยายหลอดลม เคาะปอด ดูดเสมหะ และให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ย่างเพียงพอ
- ผู้ป่วยจะสามารถหายเป็นปกติได้ภายใน 1-2 สัปดาห์
หมายเหตุ: ในผู้ป่วยที่เป็นเด็กเล็ก หากรักษาไม่ทันอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ภาวะแทรกซ้อน
โรค RSV สามารถมีภาวะแทรกซ้อนได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กหรือเด็กที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ โรคปอด และเด็กที่คลอดก่อนกำหนด อาจมีภาวะรุนแรงถึงขั้นหายใจล้มเหลว ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ หรือเสียชีวิตได้
ในเด็กมีกมีภาวะหลอดลมไวตามมา จะทำให้หายใจเหนื่อยง่าย ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืด
วิธีป้องกัน
- เนื่องจากโรคนี้ไม่มีวัคซีนป้องกัน วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ ดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ
- หมั่นล้างมือบ่อยๆ
- อย่าอยู่ใกล้กับคนที่เจ็บป่วย และถ้าเป็นไปได้ควรเลี่ยงไม่ให้คนอื่นหอมหรือสัมผัสลูก
- หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ เพราะควันบุหรี่จะทำให้เกิดโรครุนแรงขึ้นได้
- เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
- หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่แออัด
- แยกเด็กที่ป่วยออกมา และแยกภาชนะต่างๆ รวมทั้งทำความสะอาดของเล่นด้วย
- ใส่หน้ากากอนามัย และดูแลร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ
ไวรัส RSV ยังไม่มีวัคซีนป้องกันหรือยารักษาโดยเฉพาะ ดั้งนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรสังเกตุอาการ และความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับลูก รวมถึงรักษาความสะอาดของร่างกายและของใช้ของลูกอยู่เสมอ เพื่อช่วยป้องกันลูกน้อยจากไวรัส RSV
รู้หรือไม่?
- สถานที่ที่มีคนอยู่หนาแน่น หรือสถานรับเลี้ยงเด็กมีความเสี่ยงเป็นโรคนี้เพิ่มขึ้น
- ผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการคล้ายไข้หวัด แต่ RSV จะส่งผลรุนแรงถึงขั้นเป็นโรคปอดบวม ปอดอักเสบและหอบหืดได้
- โรคนี้ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ
โรคไวรัส RSV จากกระทรวงสาธารณสุข