เป็นเริมที่อวัยวะเพศ
เป็นเริมที่อวัยวะเพศ โดยเชื้อเริมจะแพร่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด รูทวาร หรือด้วยปาก เมื่อผู้ใดติดเชื้อไวรัสเริมแล้ว เชื้อนี้จะทำการฝังตัวอยู่ในร่างกายอย่างถาวร ผู้ติดเชื้อโรคเริมที่อวัยวะเพศหลายคนอาจไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ เพราะมีอาการเพียงเล็กน้อย หรือในหลาย ๆ คนอาจไม่มีอาการของโรคที่สามารถสังเกตุด้
โรคเริม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส HSV (herpes simplex virus) มักแสดงอาการขึ้นที่บริเวณอวัยวะเพศ ปากมดลูก หรืออาจแสดงอาการบนผิวหนังบริเวณอื่นของร่างกายได้ด้วย
อาการของโรคเริมที่อวัยวะเพศ
- มีอาการเจ็บแสบบริเวณรอบ ๆ อวัยวะ หรือขณะปัสสาวะ
- ในผู้หญิงอาจมีมีตกขาวร่วมด้วย
- อาจมีอาการปวดศีรษะ เป็นไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อก่อน
- มีผื่นแดงเจ็บปวดมาก หลังจากนั้นจะรู้สึกแสบร้อน
- จะเกิดตุ่มใส ๆ ขึ้นที่อวัยวะเพศ ขาหนีบ ก้นและทวารหนักในเวลาต่อมา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วแผลพุพองนี้จะหายไปเอง และจะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นหลงเหลือไว้
ส่วนใหญ่อาการของโรคอาจจะยังไม่ปรากฏทันที อาจใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีหลังจากที่ติดเชื้อแล้ว ถ้ามีอาการติดเชื้อเริมในครั้งแรก จะมีความรุนแรงมากกว่าครั้งต่อๆ ไป และอาจเป็นอยู่นานถึง 20 วัน
การดูแลรักษา
- อาการเจ็บปวด บรรเทาด้วยยาพาราเซตามอล (ไทลินอล, แอคซิตามิโนฟีน) หรือไอบูโปรเฟน ซึ่งสามารถหาซื้อได้โดยไม่ต้องอาศัยคำสั่งแพทย์
- การแช่อาบน้ำเกลือนั้นสามารถบรรเทาอาการได้
- ปะคบด้วยถุงน้ำแข็ง โดยห่อน้ำแข็งด้วยวัสดุอื่นก่อน อย่าปะคบก้อนน้ำแข็งบนผิวหนังโดยตรง
- ทาวาสลีน (หรือขี้ผึ้งปิโตเลียมอื่น ๆ ) ลงบนบริเวณแผล ถ้าหากว่ามีอาการปวดแสบเมื่อปัสสาวะให้ชะโลมครีมหรือโลชั่น เช่น ลิโดเคอีน ลงบนบริเวณช่องทางเดินปัสสาวะ บางคนใช้วิธีการปัสสาวะขณะที่แช่ในน้ำอุ่นเพื่อช่วยลดความเจ็บปวด
- ไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่คับแน่นหรือพอดีตัว โดยเฉพาะบริเวณที่ปรากฏอาการของโรค
- ล้างมือให้สะอาด โดยเฉพาะเมื่อคุณสัมผัสบริเวณที่ปรากฏอาการของโรค
- งดเว้นการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าอาการของโรคที่ปรากฏนั้นหายดี