น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลา
อาหารเสริมจาก น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลา มีความแตกต่างกันอย่างอย่างไร และมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง มาดูกัน
น้ำมันปลา (Fish Oil)
น้ำมันปลาเป็นน้ำมันที่สกัดมาจากเนื้อ หนัง หัวและหางของปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า และแมกเคอเรล ซึ่งในน้ำมันปลาจะมีไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง ในกลุ่มโอเมก้า3 หรือ DHA และ EPA
ประโยชน์ของน้ำมันปลา
- ช่วยลดระดับไขมันในเลือด โดยเฉพาะไตรกลีเซอไรด์ และมีฤทธิ์ในการต้านเกาะตัวของเม็ดเลือด จึงช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น
- ช่วยชลอวัย
- ช่วยลดความดันโลหิตในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงในระยะเริ่มแรกได้
- ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท เหมาะสำหรับทารกจนถึงวัยเด็กที่สมองกำลังพัฒนาสติปัญญาและการเรียนรู้
- ช่วยป้องกันความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ
- ต้านการอักเสบของโรคไขข้ออักเสบ และโรคผิวหนังบางชนิด
- ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการหอบหืด ภูมิแพ้
- น้ำมันปลาอุดมไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย คือ กรดโอเมก้า3
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะรับประทานน้ำมันปลานั้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน เพราะการรับประทานน้ำมันปลามากจนเกินไป อาจจะทำให้วิตามินอีในร่างกายของเราลดลงได้
น้ำมันตับปลา (Cod Liver Oil)
น้ำมันตับปลาสกัดมาจากตับของปลาทะเล ส่วนมากจะใช้ปลาคอด หรือปลาแฮลิบัท มีวิตามินเอ และวิตามินดีในปริมาณสูง และสูงมากกว่าในน้ำมันปลา
ซึ่งวิตามินเอ และวิตามินดี มีประโยชน์ช่วยส่งเสริมสุขภาพของดวงตา ผิวพรรณ และกระดูก ส่วนไขมันโอเมก้า3 นั้นมีอยู่บ้าง แต่ไม่เข้มข้นเท่ากับน้ำมันปลา
คำแนะนำ: หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานน้ำมันตับปลา เพราะมีวิตามินเอสูง อาจทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้
วิตามิน อาหารเสริมจำเป็นหรือไม่?