กินน้อยแต่อ้วน
หลายคนไม่เข้าใจว่าทำไม กินน้อยแต่อ้วน และแยกไม่ออกว่าที่ตัวเองมีร่างกายอ้วนนั้น เกิดจากฮอร์โมน หรือเกิดจากการที่เรารับประทานมากเกินไปกันแน่
ภาวะอ้วนจากฮอร์โมน
- กินไม่เยอะ แต่น้ำหนักลดยาก
- ให้สังเกตุที่ตาตุ่มและหลังเท้า ถ้ามีอาการบวม อาจเป็นไปได้ว่าคุณอ้วนเพราะฮอร์โมน
- มีสภาพผิวหนังแห้ง หรือชื้นผิดปกติ
- หน้าท้องแตกลาย ทั้งๆ ที่ไม่ได้ตั้งครรภ์
ฮอร์โมนที่เป็นตัวกำหนดรูปร่าง ผอม หรือ อ้วน
1. ฮอร์โมนเลปติน (Leptin Hormone)
เป็นหนึ่งในฮอร์โมนที่ผลิตจากเซลล์ไขมัน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมความอยากอาหาร คนที่มีไขมันส่วนเกินในร่างกาย มีโอกาสเผชิญกับภาวะต้านฮอร์โมนเลปติน ซึ่งสมองจะไม่ตอบสนองต่อเลปติน
ภาวะต้านฮอร์โมนเลปตินสามารถรักษาได้ ด้วยการรับปรทานอาหารที่มีประโยชน์ และการออกกำลังกาย
2. ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol Hormone)
คอร์ติซอล คือ ฮอร์โมนแห่งความเครียด ในวันที่เคร่งเครียดยุ่งเหยิง เรามักจะรู้สึกอยากกินของหวานเป็นพิเศษ นั้นเพราะต่อมหมวกไตหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมา เพื่อเตรียมพลังงานให้อยู่ในโหมดพร้อมสู้หรือถอยหนี ร่างกายของเราจึงต้องการแป้ง และน้ำตาลมากขึ้น นั้นหมายความว่า “ยิ่งเครียดมาก ยิ่งอ้วนมากขึ้น”
จากงานวิจัยพบว่า คนที่นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อย มีโอกาสอ้วนสูงกว่าคนที่นอนปกติ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เพราะฮอร์โมนคอร์ติซอลจะถูกหลั่งออกมามาก เนื่องจากร่างกายอยู่ในภาวะอ่อนแอ
ถ้าไม่อยากอ้วน ต้องนอนหลับพักผ่อนให้อย่างเพียงพอจะช่วยได้
3. ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen)
ผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป ระดับโปรเจสเตอโรนจะลดต่ำลง ทำให้สมดุลของเอสโตรเจนเสียไป เป็นสาเหตุให้ร่างกายเกิดการสะสมไขมัน โดยเฉพาะบริเวณกลางลำตัวจะอ้วนมาก ซึ่งปกติคนเราจะมีน้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ ในระยะเวลา 1 ปี แต่คนที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนเด่น น้ำหนักขึ้นแล้วไม่ลง และอยู่นานเกิน 1 ปี
ผู้ชายที่มีหน้าอกใหญ่ พุงใหญ่ อาจเป็นเพราะมีความผิกปกติของฮอร์โมนเอสโตรเจน มักพบในผู้ชายอายุ 40 ปีขึ้นไป
ถ้าคุณกินน้อยแต่อ้วน ควรไปพบแพทย์ เพื่อเจาะเลือดดูว่าระดับฮอร์โมนในร่างกายปกติหรือไม่ เพื่อการรักษา และควบคุมน้ำหนักอย่างถูกวิธี
อาหารช่วยปรับฮอร์โมน
- ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น บล็อกโคลี กะหล่ำปลี่ หัวผักกาด จะช่วยปรับเอสโตรเจนในร่างกายให้ลดลง
- ผลไม้รสเปรียว
- ไยอาหารชนิดที่ไม่ละลายน้ำ ได้แก่อาหารจำพวก ผักผลไม้หลายชนิด ถั่วลิสง เผือก มัน ข้าวโพด ข้าวชนิดไม่ขัดสี เป็นต้น ช่วยในเรื่องการขับถ่าย และช่วยดูดซับคอเลสเตอรอลที่มีอยู่ในลำไส้ เพื่อไม่ให้ดูดซึมเข้าไปในร่างกายมากขึ้น เพื่อไม่ให้เอาไปสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนมากขึ้น
- Lignanes มักพบในกลุ่ม น้ำมันงาและน้ำมันนุ่น จะเป็นตัวจับเอสโตรเจนในกระแสเลือด เร่งการกระบวนการเผาผลาญและการขับถ่าย
- ทานอาหารที่มีโปรตีนและแคลเซียมสูง และดื่มน้ำให้มากในแต่ละวัน
วิธีลดน้ำหนักที่ดีที่สุด และได้ผลจริง