โรคไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออก (Dengue fever) เกิดจากไวรัสเดงกี่ ที่มียุงลายตัวเมียเป็นพาหะนำโรค ถ้ายุงกัดผู้ที่ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก เชื้อไวรัสเดงกี่ก็จะเข้าไปฟักตัว เพิ่มจำนวนอยู่ในตัวยุง เมื่อยุงตัวนี้ไปกัดคนอื่น ก็จะปล่อยไวรัสเดงกี่ให้คนนั้น ทำให้คนนั้นเป็นโรคไข้เลือดออกต่อไปอีก
อาการไข้เลือดออก
- มีไข้สูงลอย 39-40 องศา
- ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดท้อง
- มีผื่นแดงที่ผิวหนัง และมีเลือดออกตามลำตัวเป็นจุดๆ
- ถ่ายดำ
- มีเลือดกำเดาไหล อาเจียน
- ตับโต กดเจ็บบริเวณชายโครงข้างขวา
- ในช่วงไข้จะลดมีอาการช็อก มือเท้าเย็น รอบปากเขียว ชีพจรเบาและเร็ว ความด้นโลหิตต่ำ และอาจจะเสียชีวิตได้
การรักษาโรคไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออกยังไม่มียาที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อเดงกี่โดยเฉพาะ ดังนั้นการรักษาจึงรักษาไปตามอาการ
- ให้ยาลดไข้ เช่น ยาพาราเซตามอล
- ดื่มน้ำเกลือแร่
- ดูอาการอย่างใกล้ชิด ถ้าผู้ป่วยมีอาการกระสับกระส่าย คลื่นไส้ อาเจียน มือเท้าเย็น ปากเขียว หน้ามืด ใจสั่น ในช่วงไข้ลด ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
- ตรวจเลือด สิ่งสำคัญที่สุด ถ้าคิดว่าเป็นไข้เลือดออก ควรรีบนำผู้ป่วยไปพบแพทย์โดยเร็ว
การป้องกันโรคไข้เลือดออก
- การกำจัดลูกน้ำ ใช้ทรายอะเบท หรือยาฆ่าลูกน้ำใส่ในบ่อน้ำ
- กำจัดแหล่งน้ำที่สามารถเพาะพันธุ์ยุง พาชนะที่ใส่น้ำต้องมีฝาปิดมิดชิด เปลี่ยนน้ำในแจกันใส่ดอกไม้อยู่เสมอ
- พ่นยาฆ่ายุงลายตามบ้าน และในที่ที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
- ควรนอนในมุ้งเพื่อกันยุงกัด หรือ ใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงแขนยาว
- ไม่ควรนั่งเล่นในมุมมืด หรือที่ๆไม่มีลมพัดผ่าน
ขณะนี้บางประเทศ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังทำการทดลองวิจัย เพื่อผลิตวัคซีนต้านเชื้อไวรัสเดงกี่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการทดลอง ส่วนงานพัฒนาวัคซีนของมหาวิทยาลัยมหิดล ก็กำลังอยู่ในระหว่างทำการค้นคว้า ทดลองวิจัยอยู่ด้วยเช่นกัน
หมายเหตุ: โรคนี้แพร่ระบาดได้ตลอดปี แต่พบการระบาดมากที่สุดในฤดูฝน ส่วนใหญ่เกิดกับเด็กมากกว่าผู้ใหญ่
วิธีกำจัดยุงและแมลง ด้วยผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน