ยาคุมฉุกเฉิน
ยาคุมฉุกเฉิน จะมียาเพียง 2 เม็ด ซึ่งประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนอย่างเดียวในปริมาณที่สูงมาก เพื่อกระตุ้นให้ผนังมดลูกของเราโตเต็มที และจำทำให้มีประจำเดือนมาภายใน 2-3 วัน
แต่ถ้าประจำเดือนยังไม่มาภายใน 2-3 วัน ควรทำการทดสอบการตั้งครรภ์
วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน
- ให้ทานเม็ดแรกทันที หรือภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งทานได้เร็วเท่าใหร่ยิ่งดี
- ทานเม็ดที่ 2 ภายใน 12 ชั่วโมง หลังจากเม็ดแรก
- สามารถทานครั้งเดียว 2 เม็ดพร้อมกันได้ แต่อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงมากกว่าการทานทีละเม็ด เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดศรีษะ เป็นต้น
ผลข้างเคียง
- ยาคุมฉุกเฉินเมื่อรับประทานแล้ว อีก 2-3 วันจะต้องมีประจำเดือนมาทุกครั้ง และจะทำให้เลือดออกมากกว่าปกติ จึงไม่ควรกินยาคุมฉุกเฉินเกิน 2 แผงต่อเดือน เพราะจะทำให้ร่างกายเสียเลือดมากเกินไป
- การกินยาคุมฉุกเฉินพร่ำเพรื่อ จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า สมองสั่งงานช้า ส่งผลกระทบต่อการเรียน และการทำงาน
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศรีษะ
- มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดต่ำกว่ายาเม็ดคุมกำเนิดแบบ 28 และ 21 เม็ด
มีเพศสัมพันธ์ผ่านไป 3 วัน กินยาคุมฉุกเฉินทันใหม?
ถ้ามีเพศสัมพันธ์ผ่านไป 72 ชั่วโมงหรือ 3 วันแล้วโดยไม่ได้คุมกำเนิด สามารถทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่า ลีโวนอร์เจสเตรล (levonorgestrel) ทานครั้งเดียว 2 เม็ด ภายใน 120 ชั่วโมง หรือ 5 วัน
ใช้ยาคุมฉุกเฉินเมื่อจำเป็นเท่านั้น
ยาคุมฉุกเฉินควรใช้เมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น เช่น พลาดพลั้งเกิดการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจ หรือลืมทานยาเม็ดคุมกำเนิด จึงจำเป็นต้องใช้เพื่อช่วยป้องก้นการตั้งครรภ์
แต่ถ้ามีเพศสัมพันธ์เป็นประจำหรือมากกว่า 2 ครั้งต่อเดือน ควรใช้วิธีอื่นในการคุมกำเนิด เพื่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดที่ดีกว่า เพราะยาคุมฉุกเฉินสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้เพียง 75-85 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
สำหรับวัยรุ่นที่มีเพศสัมพันธ์ ควรวางแผนการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยในการคุมกำเนิด เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยังช่วยป้องกันการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย
รู้หรือไม่?
- กินยาคุมฉุกเฉินขณะตั้งครรภ์ ไม่ส่งผลทำให้เด็กในท้องพิการ เพราะยาคุมฉุกเฉิน เป็นฮอร์โมนตามธรรมชาติที่ร่างกายเรามีอยู่แล้ว
- ถ้าจำเป็นต้องใช้ สามารถซื้อได้เองตามร้านขายยา โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์
- การกินยาคุมฉุกเฉินติดต่อกันเป็นเวลานานๆ จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่ได้
- ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาทำแท้ง