ประโยชน์ของพริก
ประโยชน์ของพริก สามารถใช้ในการควบคุมน้ำหนัก บรรเทาอาการไข้หวัด และการหายใจ เพราะพริกมีสารแคปไซซิน ที่ช่วยขยายช่องจมูกให้ใหญ่ขึ้น
เมื่อกินพริกเข้าไป จะทำให้เกิดความระคายเคืองกับเนื้อเยื่อผิวในปาก เกิดอาการแสบร้อนที่เราเรียกว่า “เผ็ด” โดยส่วนที่เผ็ดที่สุดของพริก จะอยู่ตรงแกนข้างในที่มีเมล็ดติดอยู่ ตรงนั้นจะมีต่อมที่ผลิตสารแคปไซซิน (Capsaicin) ออกมา ซึ่งเป็นสารให้ความเผ็ด
ประโยชน์ของพริก
- พริกมีสารตั้งต้นของวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา
- ช่วยให้ทางเดินหายใจโล่ง ขับเสมหะ เพราะแคปไซซินจะไปขยายช่องจมูกให้ใหญ่ขึ้น ทำให้เสมหะที่ข้นเหนียวจือจางลง ร่างกายสามารถขับออกได้ง่ายขึ้น จะเห็นได้จากเมื่อเรากินพริกเผ็ดๆ น้ำตา น้ำมูกจะใหลออกมา
- พริกมี วิตามินซี สูง แต่วิตามินซีจะสลายตัวเมื่อถูกความร้อน เพราะฉะนั้นการกินพริกสดๆ จะดีกว่าพริกที่ปรุงสุกแล้ว
- แคปไซซินช่วยกระตุ้นสมองส่วนกลาง ให้หลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารสร้างความสุข ทำให้เราอารมณ์ดีมากขึ้นถ้ากินพริก
- สำหรับผู้ป่วยหอบหืด พริกจะช่วยให้อาการดีขึ้นอย่างมาก เพราะความเผ็ดจะทำให้หลอดลมขยายตัวได้ดีขึ้น ไม่หดเกร็ง
- แคปไซซินที่อยู่ในพริก ช่วยป้องกันไม่ให้ตับสร้างคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี แต่ส่งเสริมสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดี
- ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง
- ลดความดัน และลดการอุดตันของหลอดเลือด การกินพริกเป็นประจำ จะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
- พริกช่วยเพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย และช่วยในการเผาผลาญ จึงมีประโยชน์ในการควบคุมน้ำหนัก
- บรรเทาอาการปวด เช่น ลดอาการปวดฟัน
วิธีแก้เผ็ด
แคปไซซิน สามารถละลายได้ในแอลกอฮอล์ และไขมัน แต่ไม่ละลายในน้ำ เพราะฉะนั้น เวลาคุณกินเผ็ด แล้วกินน้ำเปล่าตาม หรือบ้วนปาก ไม่ได้ช่วยให้ความเผ็ดหายไป
แต่ควรดื่มนม หรือแอลกอฮอล์เล็กน้อย หรืออาหารหวานที่มีส่วนผสมของกะทิ ถ้าไม่มีสามารถอมเกลือ หรือน้ำปลาแทนได้
กินเผ็ด ไม่ได้ทำให้เป็นโรคกระเพาะ
หลายคนมักเข้าใจผิด คิดว่ากินเผ็ดๆ จะทำให้เป็นโรคกระเพาะ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด สาเหตุที่เป็นโรคกระเพาะ ไม่ใช่เพราะกินเผ็ดๆ
แต่เป็นเพราะ กินอาหารไม่ตรงเวลา ทำให้น้ำย่อยกัด และเป็นแผลในกระเพาะอาหาร แต่ถ้าเป็นโรคกระเพาะอยู่แล้ว ห้ามกินเผ็ด เพราะจะทำให้ระคายเคืองกับแผลในกระเพาะอาหารได้